หลัง 19 กันยายน 2549 สิ่งแรกที่ คปค. ประกาศคือ ให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนเสีย
แล้วใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตราที่สำคัญอย่างยิ่งคือ มาตรา 36 และ มาตรา 37
ในสถานการณ์ปัจจุบันขอยกแค่ มาตรา37 มาให้เปรียบเทียบ
"มาตรา 37 บรรดาการกระทำทั้งหลายซึ่งได้กระทำเนื่องในการยึด และควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดิน เมื่อวันที่ 19 กันยายน พุทธศักราช 2549 ของหัวหน้า และคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมตลอดทั้งการกระทำของบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำดังกล่าวหรือของผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากหัวหน้าหรือคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอันได้กระทำไปเพื่อการดังกล่าวข้างต้นนั้น
การกระทำดังกล่าวมาทั้งหมดนี้ไม่ว่าเป็นการกระทำเพื่อให้มีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ รวมทั้งการลงโทษและการกระทำอันเป็นการบริหารราชการอย่างอื่น ไม่ว่ากระทำในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำหรือผู้ถูกใช้ให้กระทำ และไม่ว่ากระทำในวันที่กล่าวนั้นหรือก่อน หรือหลังวันที่กล่าวนั้น หากการกระทำนั้นผิดต่อกฎหมาย ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิด และความรับผิดโดยสิ้นเชิง"
* * * * *
อ่านกี่ครั้งกี่ครั้งผมก็อดสำลักความอยุติธรรมไม่ได้ เสมือนใครสักคนอัดกรวดทรายยัดลงลำคอทุกที
จริงๆแล้ว มาตรานี้เปรียบดั่งคำสารภาพผิดดีๆนี่เอง
ไหนอ้างว่าต้องทำเพื่อแก้ไขบ้านเมืองให้พ้นจากภัยพิบัติ เมื่อทำความดีแล้วจะผิดได้อย่างไร
แล้วใยจึ่งออกกฎหมายอภัยโทษให้ตนเอง?????
วิถีชน prachatalk.com 17พ.ย.2554
* * * * *
เขาเอามายัดไว้ใน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 เรียบร้อยแล้วครับ ไม่ใช่แค่ประกาศ คปค.อย่างเดียว โดยยกเอา ฉบับชั่วคราว มารับรองถาวรจนถึงวันนี้
มาตรา 309 บรรดาการใดๆที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 ว่าเป็นการชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีดังกล่าวไม่ว่าก่อนหรือหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการนั้นและการกระทำนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
มีชัย ฤชุพันธุ์
@ 4 ข้อเสนอนิติราษฎร์ "ลบล้างผลพวงรัฐประหาร 19 กันยา"
@ 027 Pictures...Bangkok Underwater 26 October 2011
@ 029 ชมภาพชุด! นายกฯปูลงเรือเยี่ยมประชาชนเขตดอนเมืองที่ถูกน้ำท่วมขัง...และภาพสวยๆจากสื่อมะกัน
@ 06 ทหารลูกผู้ชายจริง มีหรือไม่? นายกฯปู..จะเรียกตัวมาใช้งานได้ถูก..คน
@ 07 อ.จูงลา จะล่ารายชื่อไล่นายกฯปู ถาม ปชช. 16 ล้านเสียง หรือยัง???
@ ด้วยความเคารพ...ผมรู้สึกว่าพวกกระบวนการโป้งๆชึ่ง มันอยากให้กรุงเทพฯวิบัติจากน้ำท่วม
@ ชมภาพสวยๆทั้ง 3 ชุด บาหลี-ต้อนรับฮิลลารี-บันคีมูนที่ทำเนียบฯ
@ ทำไม? ทำไม?? ทำไม????????????
@ 08 เห็นด้วยไหม ว่าความเป็นจริง ประเทศไทย เกิดปัญหา จากความไม่กล้า และกฎหมายปัญญาอ่อน
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน บรูไน, อินโดนีเซีย, กัมพูชา, ลาว, เมียนมาร์ ชุดที่1
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน เวียดนาม ชุดที่2
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน สิงคโปร์ ชุดที่3
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน อินเดีย ชุดที่4
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน ฟิลิปปินส์ ชุดที่5
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์ร่วมประชุมที่สวิสเซอร์แลนด์ ชุดที่6
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน มาเลเซีย ชุดที่7
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือนกองทัพไทย
@ ภาพชุดงานสโมสรสันนิบาต วันเฉลิมพระชนมพรรษา 5ธ.ค.2554
@ "ดร.สุนัย" เอาจริง ยื่นเอกสาร "ศาลอาญาระหว่างประเทศ"
@ แจกปฏิทิน พ.ศ.2555 ครับ เชิญคลิกโหลดที่นี่...
@ "เจ้าอาวาสวัดดอนเมืองจำได้ นายกฯ "ด.ญ.ปู" ทะเลาะกับหมาแมว
@ ชมภาพชุด&Clip...งานแต่งน้องเอม12ธ.ค.54
@ รำค๊าญ..รำคาญที่ยังมีคนพูดว่าอภิสิทธิ์ได้เป็นนายกฯตามระบอบประชาธิปไตย
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...
งานนี้...ไม่ใครๆหรือผมเอง ก็ไม่พ้นภาวะเครียด กับมัน!!
By: ธนวุฒิ ดุษฎีปัญจพร
ยามนี้ใครๆที่บ้านโดนน้ำท่วมเหมือนผมคงไม่พ้นภาวะเครียดกับ"น้องน้ำ"ซึ่งคงจะเครียดไม่แพ้กัน..."เมื่อไหร่จะให้กูลงทะเลซะทีว่ะไอ้มนุษย์ปิดๆกั้นๆกันอยู่ได้"
และก็เพราะ"น้องน้ำ"หาทางลงทะเลไม่เจอนี่แหละ ทำเอาชาวบ้านชาวเมืองจะไปทำธุระปะปังไปไหนมาไหนก็ลำบากลำบน ตำรวจจราจรท่านก็ปิดโน่นกั้นนี่ทำเอาถนนเครียดตามไปด้วยรถยนต์รถเมล์คนโดยสารรถประจำทางต้องเปลี่ยนเส้นทางกันให้วุ่นวาย
ภาวะเครียดที่ตามมาอีกอย่าง...ก็ขโมยขโจรที่มากับสายน้ำนั่นแหละ สมัยนี้มันไม่ได้งัดประตูบ้านเหมือนเก่า แต่มันปีนขึ้นหลังคางัดกระเบื้องลงมา แถมเอารถปิ๊กอัพจอดหน้าบ้านขนทรัพย์สินจนเกลี้ยง มากัน 3-4 คนทำกันอย่างเอิกเกริกเหมือนเจ้าของจะย้ายบ้านเนียนขนาดบ้านข้างๆไม่สงสัยละกัน พอข่าวบ้านนี้โดนยกเค้ากระจายก็พากันเครียดไปทั้งหมู่บ้าน ตัวใครตัวมันระแวดระวังกันเอาเอง จะไปไหนมาไหนก็เครียดจนไม่กล้าทิ้งบ้านต้องมีคนอยู่เฝ้าตลอดเวลา
ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมเป็นเพราะหลายๆโรคที่ประดังกันเข้ามา ผมมีนัดกับคุณหมอที่ รพ.ติดๆกัน เริ่มจากรับยาความดันโลหิตสูง, รับยาแผนกตา, แผนกหูคอจมูกนัดตรวจไซนัส, แผนกศัลยกรรมกระดูกฯบอกว่ากระดูกต้นคอเสื่อม ต้องทำกายภาพบำบัดที่เวชศาสตร์ฟื้นฟูทุกจันทร์-อังคาร-พฤหัสฯ วันนัดหลายๆแผนกรวมกันจนผมสับสนอลหม่านจำไม่ได้ เอาเป็นว่าผมต้องไป รพ.เกือบจะทุกวันนั่นแหละ
ไหนจะเครียดกับ"น้องน้ำ" เครียดกับสารพัดโรคที่ประดังเข้ามาเยือน พะวงกับขโมยขโจรจนต้องวุ่นวายหาคนเฝ้าบ้าน วันที่ 16 พ.ย.คุณหมอนัดตรวจผลการรักษาที่ผ่านมาบอกว่าผมจะต้องทำกายภาพอีก 1 เดือนพอจะมีเวลาหรือขัดข้องไหม ผมไม่ปฏิเสธและบอกว่าขอเปลี่ยนวันนัดเป็นวันอื่นเพราะลูกชายที่กำลังเรียนวิศวฯคอมเทอมสุดท้ายมีตารางเรียนเวลา 18.00 น.จะได้อาศัยเฝ้าบ้าน คุณหมอตกลงและให้ไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ด้านนอก วันนั้นผมจำวันผิดจึงขอเปลี่ยนเป็นจันทร์-พุธ-ศุกร์
จะเอาอะไรกับคนแก่อายุ 64 ความจำหลงๆลืมๆล่ะอีหนูเอ๊ย... เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ผมก็ขอเปลี่ยนจากวันจันทร์เป็นวันอังคารส่วนวันอื่นๆคงเดิม คิดว่าคงจะได้รับการตอบสนองที่ดีเหมือนวันก่อน แต่ผิดคาดครับเพราะวันนี้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่คนเดิมแต่เป็น"หัวหน้างานกายภาพบำบัด"มารับเรื่องเอง ท่านมองผมตาเขียว ท่านบอกว่าผมยุ่งนักเปลี่ยนกลับไปกลับมาอยู่ได้ ผมบอกว่านี่เป็นนัดชุดที่สองแล้ว นัดชุดแรกจันทร์-อังคาร-พฤหัสฯ สำหรับชุดที่สองนี้ผมขอเปลี่ยนเป็นอังคาร-พุธ-ศุกร์ เพราะลูกชายที่กำลังเรียนวิศวฯคอมเทอมสุดท้ายมีตารางเรียนเวลา 18.00 น.จะได้อาศัยเฝ้าบ้าน ท่านก็บ่นอีกว่ายุ่งเปลี่ยนกลับไปกลับมาไม่แน่นอน
เท่านั้นแหละครับความดันผมพุ่งปรี๊ดไปถึง 190/110(วัดความดันเมื่อ 5 นาทีต่อมา) ทั้งๆที่อุตส่าห์ประคับประคองให้อยู่ที่ 125/83 มาตลอด ผมสวนกลับคุณจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนบอกมา ท่านบอกว่าเปลี่ยนเป็นวันอื่นคนไข้เยอะ ผมว่าเยอะอะไรก็เห็นมีคนไข้อยู่เท่านี้(ไม่เกิน 10 ราย-แผนกอื่นมีคนไข้วันละไม่ต่ำกว่า 100 ราย)
ท่านหัวหน้าต่อปากต่อคำกับผมก็ประโยคเดิมๆนั่นแหละวนกลับไปกลับมา ท้ายสุดผมก็ทนไม่ไหวเลยกระแทกเสียงดังกลับไป...วันนี้ทำใจเย็นๆมาตั้งแต่เช้าแล้ว นี่ความดันคงจะขึ้นถึง 200 ถ้าวัดแล้วไม่ลดลงกูจะเอาเรื่องมึง...
จากนั้น"เจ้าหน้าที่ธุรการ"ก็เข้ามาสอบถามและจัดการเรียบร้อยเป็นไปตามความต้องการของผม ก็ต้องขอขอบคุณความมีน้ำใจมา ณ โอกาสนี้ครับ
ตั้งแต่ผมเข้ามารักษาที่แผนกนี้เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ความประทับใจอยู่ที่"หัวหน้าห้องตรวจเวชศาสตร์ฟื้นฟู"และ"เจ้าหน้าที่ธุรการ"ผู้มีอัธยาศัยดีเป็นมิตรกับคนไข้ เท่าที่ผมสังเกตการปฏิบัติงานของบุคลากรนักกายภาพบำบัดในแผนกเวชศาสตร์ฟื้นฟูส่วนมาก99%จะอัธยาศัยดีอะลุ่มอล่วยและเป็นกันเองกับคนไข้ทุกๆคน
แต่กับ"หัวหน้างานกายภาพบำบัด"ท่านคงมีภาระหนักและมีลูกน้องใต้บังคับบัญชามากหน้าหลายคน ผมคิดว่าท่านคงจะสับสนและเครียดกับงาน ก็เลยเหมารวมเอาคนไข้เป็นลูกน้องเข้าไปด้วย อิอิ...ผมเห็นนะครับ 10 โมงกว่าๆท่านยังคลายเครียดเดินสำรวจอะไรก็ไม่รู้ที่ห้องอาหารของ รพ.หรือว่ามี Coffee Break เหมือน รพ.เอกชนเค้า!!
เรียนท่าน ผอ.ภาสกร จะเป็นพระคุณอย่างเหลือล้นกับคนไข้ท่านอื่นๆ ขอความกรุณาอย่าให้ท่านหัวหน้าคนนี้ออกมาประสานงา(งาน)กับคนไข้ซึ่งส่วนมากจะเป็นผู้สูงอายุเดี๋ยวท่านเหล่านี้จะช็อก...เพราะความดันโลหิตพุ่งปรี๊ดเหมือนผมนะครับ
ท่าน ผอ.ครับ ฝากให้ท่านพิจารณา ผมว่าท่านหัวหน้าคนนี้ไม่เหมาะกับงานที่จะต้องพบปะหรือให้บริการคนไข้นะครับ แต่ถ้าจะให้ท่านแต่งตัวแต่งหน้าสวยๆแล้วไปยืนกระพุ่มมือไหว้ต้อนรับคนไข้ที่ทางเข้าอาคารเฉลิมพระเกียรติคิดว่าคงจะทำไม่ได้อีกเพราะมือท่านแข็งกระด้างเกินไป ตามความคิดเห็นของผมท่านหัวหน้าคนนี้น่าจะเหมาะกับงานธุรการติดต่อประสานงานภายใน รพ.มากกว่า เพราะจะได้ศึกษาว่าใน รพ.ยังมีผู้บังคับบัญชาที่เหนือกว่าการเป็น"หัวหน้างานกายภาพบำบัด"อีกหลายท่าน... และเป็นโอกาสดีที่ท่านหัวหน้าคนนี้จะได้deleteทัศนคติเดิมๆกับความเป็นเจ้าคนนายคนทิ้งไป แล้วprogramการเป็นผู้ให้บริการที่ดีเข้าไปแทนที่ เพื่อให้สมกับคำขวัญที่ว่า "ข้าราชการคือผู้ตั้งใจปฏิบัติงานให้ประชาชนชื่นใจ"
ดูรูปดูคลิปด้านล่าง...คลิปนี้ผมตั้งใจทำหน้าเบลอๆนะครับ...อิอิ
แนะนำให้อ่านบทความนี้นะครับ...
ข้าราชการยุคใหม่กับการให้บริการสู่ความเป็นเลิศ
By: น.ส.อาทิตยา พรมปา งานสนับสนุนการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ม.รามคำแหง
การให้บริการประชาชนของรัฐนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วไปทุกคน เมื่อมีคนเข้ามาเกี่ยวข้องมากปัญหาหรืออุปสรรคที่เกิดขึ้นหรืออาจเกิดขึ้นก็ย่อมมีตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นในการปฏิบัติราชการเพื่อให้บริการประชาชน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจึงจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องโดยจะต้องทราบว่าตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กฎหมายและระเบียบต่างๆที่เกี่ยวข้องนั้น ประชาชนมีสิทธิและมีหน้าที่อย่างไรบ้าง และในทางกลับกันเจ้าหน้าที่มีอำนาจและหน้าที่อย่างไรบ้างทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดปัญหาขึ้นตั้งแต่แรก
ข้าราชการยุคใหม่ควรปฏิบัติตนอย่างไร
ข้าราชการยุคใหม่ควรปฏิบัติตนดังเช่นที่ปราชญ์ชาวจีนกล่าวไว้ว่า "ข้าราชการที่ดี ที่ฉลาด ต้องทำตัวเหมือนแม่น้ำ ทะเล มหาสมุทรอยู่ที่ต่ำเสมอ และคอยรับน้ำจากทุกทิศทุกทางของโลก และทำให้โลกชุ่มฉ่ำ ข้าราชการมีหน้าที่รองรับความทุกข์และให้ความสุข(บริการ)แก่ประชาชน เมื่อใดข้าราชการทำตัวเหมือนอยู่บนยอดภูเขา ประชาราษฎร์จักต้องตะเกียกตะกายปีนป่ายขึ้นไปหา เมื่อนั้น ความห่างเหินก็จะเกิดขึ้นและไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลอย่างแน่นอน"
ข้าราชการยุคใหม่ ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1. มีบุคลิกสง่างาม น่าคบ และรู้จักใช้ความคิด มีทักษะกระบวนทัศน์ (Conceptual Skill) รู้กาลเทศะ
2. มีบุคลิกยิ้มแย้มแจ่มใส มีชีวิตชีวา เข้าลักษณะ V - UP มีความกระตือรือร้น (Vivid)
3. มีความเข้มแข็ง (Value)
4. พูดจาสุภาพ เรียบร้อย มีน้ำเสียงน่าฟัง
5. รู้จักค้นหาความต้องการของผู้รับบริการ (ประชาชน)
6. มีจิตสำนึกในการให้บริการ (Service Mind)
7. ทำให้ผู้ใช้บริการ (ลูกค้า ประชาชน) พึงพอใจ ประทับใจ
ทั้งนี้อาจยึดหลัก 6 S’s คือ Smart Smile Speak Seek Service และ Satisfaction
เชิญแสดงความคิดเห็น...ไม่เห็นboxคลิกที่นี่!!
เคยเจอแบบนี้เหมือนกันค่ะ ทำยังกะเราเป็นลูกน้องของเขา พูดจาก็ห้วนๆ คงคิดว่าตัวเองใหญ่ที่คนไข้ส่วนมากจะยกมือไหว้ปะหลกๆมั้ง
ตอบลบจาก สุนี ค่ะ
เรียน คุณสุนี, คุณมานพ, คุณเหมียว, คุณสายพิณ, คุณหม่อง
ตอบลบขอบคุณครับที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นในมุมมองต่างๆของคนไข้ที่มีต่อ รพ.นี้ สำหรับข้อความความคิดเห็นของ คุณมานพ, คุณเหมียว, คุณสายพิณ และคุณหม่อง ผมต้องขอลบทิ้งนะครับ เพราะoverเกินควรกับคำนิยามที่ว่า รพ.นี้เป็นโรงฆ่าสัตว์
คุณสุนีครับ เรื่องพยาบาลและเจ้าหน้าที่แผนกต่างๆที่พูดจาห้วนๆไม่เข้าหูนี่ ท่าน ผอ.ภาสกรกำลังแก้ไขอยู่... สังเกตไหมครับด่านแรกเมื่อเข้าไปใน รพ.จะเห็นความแปลกใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนใน รพ.รัฐ มีเจ้าหน้าที่แต่งตัวแต่งหน้าสวยๆยืนไหว้ต้อนรับคนไข้ด้วยหน้าตาใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสชนิดที่คนไข้แทบจะหายป่วยโดยไม่ต้องรักษานั่นแหละ
แต่ท่าน ผอ.พลาดไปนิดนึง การปลูกการสร้างภาพการบริการดีมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับที่ดูเหมือนอบอุ่นที่ประตูด่านหน้าถูกต้องครับต้องเป็นแบบนี้ แต่ประตูด่านหลังไม่ว่าจะพยาบาลเจ้าหน้าที่บุคลากรตามแผนกต่างๆมากกว่าร้อยละ 80 ท่านคงลืมแก้ไขลืมปลูกต้นจิตสำนึกการเป็นผู้ให้บริการที่ดีไว้ ก็เลยเป็นอย่างที่เห็นๆกันนี่แหละครับ
ธนวุฒิ ดุษฎีปัญจพร