@ "วรเจตน์" ฝ่าศึกสหบาทา: ร้องว่าผมเนรคุณ แต่คุณยืนให้สูงเพื่อบอกว่าจงรักภักดี โดยเหยียบหัวผมขึ้นไป
@ เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00
@ เข้าครัว...ทำกับข้าวคลายเครียด!! ผมทำได้ คุณก็ทำได้ครับ
@ 54... "นายกฯปู" สวมชุดนักบินเหินฟ้าชมการใช้กำลังทางอากาศ
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือนกองทัพไทย
@ ภาพชุดงานสโมสรสันนิบาต วันเฉลิมพระชนมพรรษา 5ธ.ค.2554
@ 81 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร...‘ดรัมเมเยอร์-ไทยแลนด์แบนด์’
@ สถานีรถไฟจีน แล้วลองย้อนมาดูเรา...
@ เรื่อง... ม.๑๑๒ ม.112 ม.๑๑๒ ม.112 ม.๑๑๒ ม.112
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน บรูไน, อินโดนีเซีย, กัมพูชา, ลาว, เมียนมาร์ ชุดที่1
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน เวียดนาม ชุดที่2
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน สิงคโปร์ ชุดที่3
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน อินเดีย ชุดที่4
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน ฟิลิปปินส์ ชุดที่5
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์ร่วมประชุมที่สวิสเซอร์แลนด์ ชุดที่6
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน มาเลเซีย ชุดที่7
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน ญี่ปุ่น ชุดที่8
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน เกาหลีใต้ ชุดที่9
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน จีน ชุดที่10
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน บาห์เรน-กาตาร์ ชุดที่11
@ 82 ต้องรู้..ต้องรู้...ภาระหน้าที่"เมษายน"ทุกๆปี นะจ๊ะ!!
@ 55... มาร์คครับ หยุดใช้วาทกรรมแก้รัฐธรรมนูญทำให้สังคมเกิดความขัดแย้งเลยครับ
@ สุดยอดไปเล้ย ก้อคุณพี่ทิศใต้นะสิคะ บอกไม่กลับบ้านก็ได้ทุกวันนี้สบายดี
@ 11 "ปู"พา"ไปป์"ไปญี่ปุ่นด้วย ให้พี่เลี้ยงพาเที่ยวแทน
@ 84 คุณชวนนท์ครับ ออกมาดูโลกภายนอกบ้างเถอะครับ
@ 12 เคยเห็นมั้ย!! แมงสาปดิ้นใน"บ้านทรายทอง"กรุงโตเกียวญี่ปุ่นโน่น...
@ 80 สังคมไทยป่วย หรือเป็นผลผลิตจากการโฆษณาชวนเชื่อมาอย่างยาวนาน
@ นิก นอสติทซ์ "ผมมาทำตามหน้าที่ของความเป็นมนุษย์"
@ อาข่า...พาไปชมตลาด...มาดูว่าข้าวของไม่ได้แพงอย่างสลิ่มว่านะ
@ ยาจีนโบราณ ไข่ไก่ดิบดองน้ำส้มสายชูหมัก กินแล้วหายหลายโรค
@ ตอแหล ตลบตะแลง กวนตีน สิ่งที่ไอ้ฟักและพรรคของมันคิดว่าเท่เหลือเกินในสภา
@ ลูกเล่นใหม่ GoogleMap ดูได้รอบทิศทาง360องศาหน้าบ้านตัวเอง-คนอื่น
@ แม่ค้ารุมกรี๊ด! ภาพนายกฯปู กินก๋วยเตี๋ยว-เดินตลาดนางเลิ้ง
@ "ไหว้พี่เค้าสิ"....วลีนี้บาดลึกและสะเทือนไกลไปถึงไหน
@ ไป ตรัง มา มีเรื่องมาเล่าให้ฟังนิดหน่อยไป ตรัง มา มีเรื่องมาเล่าให้ฟังนิดหน่อย
@ คลิปและภาพนายกฯปูเล่นสงกรานต์ที่เชียงใหม่
@ คลิปนายกฯทักษิณร้องเพลงเวทีคนเสื้อแดงที่กัมพูชา
@ เปิดตัว "เอ็มแรป" โมเดล! สุดคุ้มขึ้นค่าแรง 300 บาทบริษัทโชว์กำไรพุ่ง
@ ขอยืนยัน ข้าวแกงจานละ 100 บาท หรือกว่า ร้อยบาท มีจริง แพงจริง...
@ เหอ เหอ... พณฯท่าน ส.ส.ผู้ทรงเกียรติในสภาฯ
@ ผู้ที่มี "วิสัยทัศน์" นั้น ย่อมต่างจากคนที่ยังครอบหัวกบาลตัวเอง ด้วย "กะลาทัศน์"...
@ ผมเห็นรัฐบาลกำลังทำอะไรที่ไร้แก่นสารแบบนี้แล้ว รู้สึกเหมือนถอยหลังไปอีกสิบปี
@ ถ้าวันนั้น...วันที่ประเทศไทยเศรษฐกิจล่มสลายไปเรียบร้อย ถ้าไม่มีชายชื่อทักษิณ ชินวัตร วันนี้ประเทศไทยจะเป็นยังไง???
@ ของดีราคาถูกหน้า พรรค ปชป. กรุงเทพฯ
@ สนทนาประสาสมัคร 17-02-2551 "แก้เศรษฐกิจด้วยเศษสตางค์"
@ ปิยบุตร แสงกนกกุล: ทำความเข้าใจหลักการ "เงินเยียวยา" ทำไมห้ามฟ้องแพ่ง
@ System Engineer วิศวกรระบบเซิร์ฟเวอร์ คอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์ก
@ สุดยอด ส.ส. ที่ประวัติศาสตร์การเมืองไทยต้องบันทึกไว้
@ แถลงการณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่งระงับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
@ พอเถอะครับ ตุลาการวิบัติ ที่ผ่านๆมา ชาติบ้านเมืองยัง ฉิบหาย กันไม่พออีกหรือ
@ ถ้าไม่สู้ตอนนี้...แล้วจะไปสู้ตอนไหน?????????ฮึ!! ท่านประธานฯ
@ คลิปเต็ม นายกฯปูประชุม ขำกลิ้ง 16 06 2555
@ ผมแอบชื่นชมมวลชนของประชาธิปัตย์อย่างแท้จริง
@ อู่ตะเภา-เขาวิหาร สันดาน "แมลงสาป"
@ ส่งเข้าสภาไปซะ อย่าเอาความมั่นคงของรัฐบาลเข้าไปเสี่ยง???
@ ผมเคยคิดว่า ปชป.แม้จะเป็นรัฐบาลไม่ได้ แต่ก็เป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ ดังนั้นผมจึงคิดว่า...
@ เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00... ตอนที่ 8...กลับไปทำงาน 2 job ใหม่ กลับเมืองไทยครั้งแรกหลังจากที่จากมาแล้วเกือบสิบปี เริ่มค้าขาย ชีวิตหักเหอีกครั้ง
@ "ดิฉันวินิจฉัยแล้ว ไม่มีหรอกค่ะโรคขี้ข้าทักษิณ มีแต่โรคอยากกลับมาเป็นนายกฯ โดยไม่ต้องชนะเลือกตั้งทักษิณ"
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...
ถอย!! ก่อนแพ้ฟาล์วซ้ำซาก "เหลิม"เหน็บประชาธิปัตย์ เหมือนเปลือยล่อนจ้อน?!
By: bangkok-today.com วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2555
ขนาด แมนนี่ ปาเกียว ยอดมวยชาวฟิลิปปินส์ ผู้สร้างประวัติศาสตร์ครองเข็มขัดแชมป์โลก 8 เส้น ซึ่งในการชกครั้งล่าสุด ป้องกันแชมป์ ดับบลิวบีโอ รุ่นเวลเตอร์เวต กับทิโมธี แบรดลี่ย์
ดูการชกผ่านไป 10 ยก ใครต่อใครก็บอกว่าชนะแน่ แต่สุดท้ายยังพ่ายแพ้แบบพลิกล็อกได้ เพราะกรรมการยกมือให้แบรดลี่ย์ ชนะไม่เป็นเอกฉันท์ ด้วยข้ออ้างว่า 2 ยกสุดท้ายแบรดลี่ย์ ชกได้ดีกว่า
เมื่อย้อนมาเทียบฟอร์มมวยระหว่าง เพื่อไทย กับประชาธิปัตย์ โดยที่มีตุลาการรัฐธรรมนูญเป็นกรรมการ บรรดาคนดูทั้งประเทศต้องยอมรับความเป็นจริงว่า
ต่อให้เพื่อไทย หรือย้อนหลังไปเป็นพลังประชาชน หรือ ไทยรักไทยก็ตาม ฟอร์มดี ฟอร์มสดขนาดไหน ก็ไม่เคยชกชนะในสนามตุลาการรัฐธรรมนูญเลย
ในขณะที่ประชาธิปัตย์ เทียบฟอร์มปอนด์ต่อปอนด์ มองเห็นความพ่ายแพ้รออยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่สุดท้ายก็หลุดรอดมาได้ทุกครั้ง
ถูกยื่นขอให้ยุบพรรค กรณีใช้เงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้าน ผิดวัตถุประสงค์ เดิมพันพุ่งสูงไม่รอดแน่ แต่สุดท้ายชนะฟาล์วได้หน้าตาเฉย
เช่นเดียวกับการถูกยื่นขอให้ยุบพรรค กรณีรับเงินบริจาค จำนวน 258 ล้านบาท จากบริษัททีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) ผ่านทางบริษัท แมซไซอะฯ ก็ลงทุนถึงขนาดฉกตัวพยาน ซุกซ่อนตัวพยานกันสารพัด จนทำให้นักเดิมพันเชื่อว่า แบบนี้คงไม่รอดแน่
แต่สุดท้ายตุลาการรัฐธรรมนูญก็จับให้ชนะฟาล์วได้อีกอย่างเฉียดฉิวด้วยมติ 4 ต่อ 3
ซึ่งทั้ง 2 กรณี พรรคประชาธิปัตย์เตรียมเอกสารเตรียมคำให้การสู้ในสารพัดประเด็นหวังเอาตัวให้รอด แต่ทุกประเด็นที่เตรียมไว้เป็นหมันหมด เพราะตุลาการรัฐธรรมนูญหยิบสิ่งที่แม้แต่ประชาธิปัตย์เองก็มองไม่เห็น ไม่ได้คิดใช้เป็นประเด็นสู้ ทั้งกรณียื่นคำร้องไม่ทันกำหนดภายใน 15 วัน กรณีเรื่องนายทะเบียนพรรคการเมืองไม่ได้มีการแทงความเห็นมา แต่กลายเป็นว่าตุลาการรัฐธรรมนูญใช้เป็นประเด็นชนะฟาล์ว
คนชนะเองลึกๆก็ยังงงๆ ชนะได้ไงหว่า???
ฉะนั้นเมื่อต้องขึ้นเวทีตุลาการรัฐธรรมนูญ ก็ไม่แปลกหากว่าจะมีคนในเพื่อไทย คนในรัฐบาลจะแหยงๆ ไม่ว่าจะมีกองเชียร์มากมายเพียงใดก็ตาม ก็ในเมื่อของมันแพ้ทางกันมาตลอดกับตุลาการรัฐธรรมนูญ
จริงอยู่แม้แต่มือกฎหมายระดับประเทศอย่าง นายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธาน คณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ จะยืนยันว่า
1. ศาลรัฐธรรมนูญไม่อาจรับคำร้องในกรณีนี้ไว้พิจารณาได้ เนื่องจากการยื่นคำร้องในกรณีดังกล่าวไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และกระบวนการตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 68
2. คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้รัฐสภารอการดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญไว้ก่อน ไม่ถือว่าเป็นเด็ดขาดและไม่มีผลผูกพันรัฐสภาให้ต้องรอการดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญไว้ก่อนแต่อย่างใด
3. การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้รับคำร้องไว้พิจารณา และมีคำสั่งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแจ้งรัฐสภารอการดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พุทธศักราช.... ไว้ก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยโดยไม่มีอำนาจนั้น จึงเป็นการจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 อันเป็นเหตุที่อาจถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งได้
แต่ถึงเวลาใครจะกล้าการันตี เพราะของแบบนี้ข้อมูลสถิติมันเห็นกันชัดๆอยู่มาโดยตลอด ว่าอะไรเป็นอะไร ใครเป็นใครกันบ้าง
ไม่เช่นนั้นทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 40 ส.ว. และกลุ่มพันธมิตรฯจะออกมาเหยงๆ ท้าให้เพื่อไทยชนกับตุลาการรัฐธรรมนูญเหรอ ถ้าไม่มั่นใจในอะไรบางอย่าง
อย่าลืมว่าถ้าเพื่อไทยถูกจับแพ้ฟาล์วรอบนี้ เพราะการดันทุรัง ก็มีหวังอาจจะจบเห่ยาวเลยเถิดไปถึงการยุบพรรคอีกสักรอบเลย ก็อาจจะเป็นได้ ใครจะไปกล้าการันตี
อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น แล้วในเมื่อพรรคเพื่อไทยไม่เคยมีดวงหนุนในสนามตุลาการรัฐธรรมนูญเลย มีหรือจะกล้าเสี่ยง
เพราะจริงๆแล้วเรื่องเกี่ยวกับมาตรา 68 นี้ พรรคเพื่อไทยก็เคยดวงกุด ถูกจับแพ้โดยตุลาการรัฐธรรมนูญมาก่อนแล้ว
โดยตอนนั้นยังเป็น รัฐธรรมนูญปี 2540 ซึ่งข้อกฎหมายรัฐธรรมนูญขณะนั้นเป็นมาตรา 63 วรรคสอง ซึ่งมีหลักการเดียวกันกับ มาตรา 68 วรรคสอง ในปัจจุบัน
แต่ปรากฏว่า คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ 12/2549 ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า กรณีตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 63 วรรคสอง ณ เวลานั้น ผู้ที่จะยื่นคำร้องต่อศาลได้ มีเพียง "อัยการสูงสุด" เท่านั้น!
ครั้งนั้นนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เป็นคนยื่นคำร้องให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ โดยอาศัยมาตรา 63 วรรคสอง แล้วยื่นตรงไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งคำสั่งศาลที่ลงนามโดยนายผัน จันทรปาน ระบุชัดเจนว่า
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า รัฐธรรมนูญมาตร 63 มิได้บัญญัติให้ผู้ร้องมีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้ยุบพรรคการเมืองได้โดยตรง แต่จะต้องดำเนินการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 63 วรรคสอง
โดยเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
เป็นประโยคเดียวกันเป๊ะกับในมาตรา 68 วรรค 2 ที่ว่าให้ผู้ที่ทราบการกระทำเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
แต่ครั้งนั้นนายสุรพงษ์ไม่มีดวง จึงไม่ได้เจอตุลาการรัฐธรรมนูญชุดนี้ ทำให้คำร้องตกไปเพราะศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง
หากวันนั้นเป็นตุลาการรัฐธรรมนูญเป็นชุดที่มีนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ และนายจรัญ ภักดีธนากุล เป็นตุลาการอยู่ในขณะนั้น ก็ย่อมต้องตีความว่าประโยคนี้เป็นสิทธิ 2 ทาง ที่ผู้ร้องสามารถทำได้ คำร้องของนายสุรพงษ์ก็คงไม่ตกไปอย่างแน่นอน
ในเมื่อมีประวัติแพ้ทางมวย มีประวัติถูกจับฟาล์วดื้อๆมาโดยตลอด เมื่อเจอแรงกดดันหนักขนาดนี้ ก็เป็นธรรมดาที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา และใครต่อใครอีกหลายคนในพรรคเพื่อไทย ในรัฐบาล จะไม่กล้าเสี่ยงไม่กล้าลุ้น
เพราะกลายเป็นว่าประเด็นคำถามที่เข้ามากดดันไม่ใช่เรื่อง "ข้อกฎหมาย" อีกต่อไปแล้ว แต่กลายเป็นเรื่องของดวง เรื่องของการแพ้ทางกันมาตลอด
ซึ่งหากถึงเวลา ตุลาการรัฐธรรมนูญไม่ยอมถอย ไม่รับฟังเสียงสะท้อนจากนักวิชาการนักกฎหมายนักรัฐศาสตร์ หรือใครใดๆก็ตาม แล้วพรรคเพื่อไทย ถึงแม้จะมีฐานะเป็นพรรคเสียงข้างมากในสภา จะออกในรูปไหนได้
ถ้าถูกจับแพ้ฟาล์วอีกก็เสียของ หรือถ้าดึงดันจนเกิดความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้นในสังคม คน 2 ขั้วที่แตกต่างกันทางด้านความคิด ต้องออกมาปะทะกันต้องเสี่ยงกับการบาดเจ็บล้มตาย ตรงนั้นรัฐบาลพรรคเพื่อไทยต้องโดนพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาธิปัตย์ที่รอฉวยจังหวะอยู่แล้วถล่มซ้ำอย่างแน่นอน
ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้พลิ้วเก่ง หรือมีแบ็คมีดวงหนุนหลังอย่างประชาธิปัตย์ที่แม้จะมีการสลายการชุมนุม มีการตายสูงถึง 91 ศพ บาดเจ็บกว่า 2,000 คน แต่รัฐบาลประชาธิปัตย์ก็ยังลอยตัวอยู่เหนือความตายและความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้
แต่หากเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงรัฐบาลพรรคเพื่อไทยบ้าง รับรองว่าโดนถล่มเละ
ฉะนั้นจึงทำให้ประธานสมศักดิ์ สุดท้ายต้องเลี่ยงบาลีให้ลงมติว่าคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันต่อรัฐสภาหรือไม่ ซึ่งก็ปรากฏว่าว่าคะแนนเสียงออกมา 318 เสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกรัฐสภา ก็เพราะไม่กล้าขัดมติ 7 ต่อ 1 ของตุลาการรัฐธรรมนูญชุดนี้นั่นเอง
แต่ก็เป็นเหตุให้ถูกคนในพรรคเพื่อไทย แกนนำมวลชนคนเสื้อแดง และบรรดานักวิชาการ นักกฎหมาย นักรัฐศาสตร์ทั้งหลายพากันออกมาแสดงความผิดหวังเป็นอย่างมาก
นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ตัดสินใจไม่เดินหน้าลงมติร่างรัฐธรรมนูญในวาระ 3 โดยมีใจความส่วนหนึ่งว่า
ผมกำลังรู้สึกจริงๆ ว่า ตอนนี้ เพื่อไทย กำลัง "มึน" (disoriented) ทางการเมือง จากความล้มเหลวเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง มา บวก กับ เรื่อง ศาลรัฐธรรมนูญเข้าอีก
(ประเภทว่า ก่อนหน้านี้ คงไม่คาดการณ์แบบนี้ไว้ เพราะเห็น อุตส่าห์ "ทอดไมตรี" กับ "ชนชั้นสูง" ไว้เสียเยอะ แล้วอีกฝ่าย ก็ราวกับมี ท่าที "เอ็นดู" ยิ่งลักษณ์ อะไรแบบนั้น)
แต่พอมาเจอ "หมัดสวนกลับ" ทางการเมือง ติดๆ กันแบบนี้ เลย "มึน" ทำอะไรกันไม่ถูก
พูดแบบ "ฟันธง" สรุปนะ ตอนนี้ ทั้ง พ.ร.บ.ปรองดอง ทั้ง แก้ รธน. "เรื่องมันจบแล้ว" อย่างน้อย เฉพาะหน้าตอนนี้
ผมยืนยันว่า ทั้งฝ่าย ทักษิณ-เพื่อไทย-นปช. และโดยเฉพาะฝ่ายคนธรรมดาๆ อย่างเราๆ ท่านๆ ทั้งหลาย ที่ต้องการประชาธิปไตย
จะต้องช่วยกัน rethink ว่า "เราจะไปทางไหนกัน" ในเรื่องการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
ที่แน่ๆ นะ ผมยืนยันว่า ไอ้คำขวัญ ที่ออกจะ "เฮงซวย" แต่ต้น เรื่อง "ปรองดอ" น่ะ ทิ้งไปได้เลย
รัฐบาลเองด้วย ควรหยุดพูดเรื่องนี้ไปเลย!!
บอกไปเลยว่า (ก) การอยาก "ปรองดอง" ทำฝ่ายเดียวไม่ได้ ถ้าอีกฝ่ายไม่เอาด้วย (ข) ที่สำคัญ สิ่งที่เกิดขึ้น พิสูจน์ว่า ประเทศไทย ความขัดแย้งขั้นรากฐานมากๆ ยังอยู่เยอะ และการจะแก้ปัญหานี้ ไม่ใช่แค่การมา "ชวนกัน ปรองดอง" แต่ต้องหาทางพูดถึง (address / identify) ปัญหาต่างๆ ที่เป็นต้นตอของความขัดแย้งนั้น และหาทางจัดการกับต้นตอของความขัดแย้งนั้น อย่างถูกต้อง
เฮ้อ! พวกเรา "กองเชียร์" ให้ เพื่อไทย ทำในสิ่งที่ถูกต้อง (ฝรั่งว่า Do the Right Thing) คือ ยืนยัน "ชน"คำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ของ ศาล รธน.
ผมว่า เราไปหางานอื่นทำดีฝ่าว่ะ ฮาๆๆๆ "บอลล์" ทีมนี้ ไม่เอาไหนเท่าไร สงสัยจะเข็นหรือเชียร์ไม่ขึ้น
เช่นกันกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่กล่าวว่า "จะมั่นใจได้อย่างไรว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินเป็นคุณกับเรา วันนี้เลี้ยวซ้ายก็ตายเลี้ยวขวาก็ตาย ทำไมเราไม่เลือกเลี้ยวให้ได้ใจมวลชน ไหนๆจะล้มอยู่แล้ว ไม่ชกให้มันประทับใจหน่อยหรือ อย่างน้อยก็ออกหมัดบ้าง ไม่ใช่รอรับเท้าที่สหบาทามาอย่างเดียว"
แต่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ได้เตือนสติโดยตั้งคำถามง่ายๆว่า ลงมติวันนี้พรุ่งนี้ได้อะไร ไม่ลงวันนี้พรุ่งนี้เสียอะไร บอกเลยว่า ยิ่งประชาธิปัตย์ทำอย่างนี้ เหมือนคนที่ถอดเสื้อผ้าเปลือยกายล่อนจ้อน
คนเห็นหมดแล้วทั้งประชาธิปัตย์และศาลรัฐธรรมนูญ บางอย่างการที่เราไม่พูดหรือการที่เรายอม ไม่ได้แปลว่าเราแพ้หรือยอมจำนน แต่การนิ่งหรือการให้เวลาไปแก้ไขผล มันอาจจะดีและหอมหวานกว่าที่คิดก็ได้
วันนี้เหมือนกับเราดำน้ำแข่งกัน ใครดำอึดกว่าก็ชนะ ใครอดทนน้อยกว่าก็แพ้ แต่ถ้าเราดึงดันเพื่อจะโหวตวันนี้ก็จะเสียของ ถ้าโหวตวันนี้ก็แพ้วันนี้เลย
"ถ้าเราเดินต่อไปก็จะเป็นการผลักนายกฯเข้าสู่คิลลิ่งโซน เพราะเมื่อส่งเรื่องขึ้นไปแล้ว ถ้าไม่ผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองขององคมนตรี มันก็จะแช่อยู่อย่างนั้น เท่ากับนายกฯเดินเข้าสู่แดนประหาร ศาลรัฐธรรมนูญก็จะออกคำตัดสินมาทันทีว่าการกระทำนั้นขัดรัฐธรรมนูญ ทีนี้ทั้งในกฎหมายทั้งนอกกฎหมาย ทั้งม็อบเชิญ ม็อบรับจ้างจะมากันหมด จึงอยากจะบอกว่า วันนี้ไม่ต้องไปกลัว มวลชนเข้าใจเรา"
ซึ่ง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกฯ ก็ได้เสริมข้อมูลด้วยว่า หน่วยข่าวด้านความมั่นคง 12 หน่วยงานได้มาประชุมกันที่ทำเนียบฯ ซึ่งทุกคนเป็นห่วงประเด็นนี้ โดยเห็นว่า ถ้านายกฯยังเดินหน้าที่จะกราบบังคมทูล ก็ขอเตือนนายกฯให้ระวัง 2 ขา คือ ทั้งขาขึ้นกราบบังคมทูล และขารับสนองพระบรมราชโองการ หมายความว่า ไม่ขาไปก็ขามาโดนแน่
นั่นหมายความว่าเรื่องนี้ข่าวกรองก็บอกให้ถอย ทหารก็บอกให้ถอยเช่นกัน!!!
สุดท้ายตอนนี้ทุกอย่างก็เลยต้องถอยไปก่อน โดยมีร่างพระราชกฤษฎีกาปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 19 มิ.ย. 2555 มาเป็นตัวช่วยในการพักยก
ซึ่งตุลาการรัฐธรรมนูญจะเรียกสอบข้อเท็จจริงในวันที่ 5-6 กรกฎาคม คือในช่วงปิดสมัยประชุม ซึ่งก็น่าจะวินิจฉัยออกมาได้ภายในไม่เกินเดือนกรกฎาคมนั่นเอง เมื่อเปิดสมัยประชุมสภาในเดือนสิงหาคม ค่อยมาว่ากันใหม่อีกทีหนึ่ง
ว่าจะคลายปมร่างรัฐธรรมนูญกับอำนาจของตุลาการรัฐธรรมนูญอย่างไร?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น