บัตรเสียแบบนี้หลายแสนใบ...กกต.จะรับผิดชอบอย่างไร???
วันนี้(5ก.ค.54) ดูข่าวจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด ปรากฏว่า
คะแนนปาร์ตี้ลิสต์(แบบบัญชีรายชื่อ)ของพรรคเพื่อไทยได้ถึง 15,748,458 คะแนน
และพรรค ปชป. ได้เพียง 11,395,269 คะแนน
ผลต่างมีถึง 4,353,189 คะแนนเลยทีเดียว
ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังไม่รวมบัตรเสียของบัตรปาร์ตี้ลิสต์อีก 1,711,401 ใบ ซึ่งส่วนใหญ่นั้นอาจจะกาผิดช่อง และน่าจะเป็นคะแนนของพรรคเพื่อไทยด้วยซ้ำ
ตัวเลข 15 ล้านกว่าคะแนนนั้น คือตัวเลขของประชาชนที่สนับสนุนนโยบายพรรคเพื่อไทย
ตัวเลข 15 ล้านคะแนนนั้น คือจำนวนประชาชนคนไทยที่ไม่เชื่อข้อมูลของทางรัฐบาลที่กล่าวหาคนเสื้อแดงตลอดเวลาว่าเป็นคนเผาบ้านเผาเมือง
การเลือกตั้งครั้งนี้ มันจึงเป็นชัยชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของพรรคเพื่อไทย โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น
ขนาดโดนรุมรังแกผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้จากหลายด้าน เธอก็ยังยิ้มได้ ว่าที่นายกหญิงคนนี้ นิ่งได้ใจจริงๆ ทำไมเธอก็ยังมาดนิ่ง ไม่ตอบโต้ ไม่ใส่ร้าย พูดแต่นโยบายล้วนๆๆ สุดยอด เหมาะที่จะเป็นนายกหญิงของประเทศไทยแห่งการปรองดองที่สุดแล้ว...
เส้นทางชีวิตผู้หญิงแกร่ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
By: voicetv.
รายงานพิเศษ เส้นทางชีวิตของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตั้งแต่วัยเด็ก จนถึงก่อนเข้าทำงานที่แรก
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือปู เป็นศิษย์เก่ารุ่นบัวเกี๋ยง โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ เป็นโรงเรียนแบบสหศึกษา โรงเรียนแห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญของเธอ เพราะหลังจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จากโรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย โรงเรียนสำหรับนักเรียนหญิง เธอก็ก้าวเข้าสู่สังคมอีกรูปแบบหนึ่ง
ตลอดการใช้ชีวิตที่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย นอกจากเธอจะมุ่งมั่นทุมเทให้กับการเรียนแล้ว เธอยังได้ชื่อว่าเป็นนักกิจกรรมตัวยง อาจารย์สุภาพ บอกกับทีมข่าววอยซ์ว่า "ปู" เป็นลูกศิษย์ที่ไม่เคยทำให้หนักใจ เป็นเด็กที่พร้อมปรับตัวทุกการเปลี่ยนแปลง จึงเชื่อว่าด้วยจุดเด่นนี้ จะทำให้นางสาวยิ่งลักษณ์ก้าวไปถึงจุดมุ่งหมายได้ไม่ยาก และด้วยบุคลิกที่เรียบร้อย อ่อนหวาน และมีน้ำใจกับเพื่อนๆ ทำให้ "ปู" กลายเป็นขวัญใจของเพื่อนและคุณครูตั้งแต่เด็กๆ
ก่อนแยกย้ายกันไปศึกษาต่อ สาวๆกลุ่มนี้ เขาก็มีข้อความน่ารักๆที่เขียนใส่สมุดเฟรนด์ชิป มอบให้แก่กัน ไว้ตอกย้ำความผูกพันและมิตรภาพระหว่างเพื่อน ซึ่งยังเหนียวแน่นมาจนถึงทุกวันนี้
ในระดับปริญญาตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังคงศึกษาต่อที่บ้านเกิด ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะสังคมศาสตร์ สาขารัฐศาสตร์ หรือสิงห์ขาวรุ่น 21 ซึ่งปัจจุบันทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้แยกสาขาวิชานี้เป็นคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์
หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาตรีในปี 2531 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นพี่ชาย ส่งเธอไปศึกษาต่อที่ระดับปริญญาโทคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเคนทักกีสเตท ประเทศสหรัฐอเมริกา
รายงานพิเศษ ชีวิตในช่วงวัยทำงานของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่น่าสนใจไม่แพ้วัยเรียน โดยหลังจากจบการศึกษา เธอเข้าทำงานตั้งแต่ตำแหน่งเล็ก จนก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้บริหารสูงสุดขององค์กรขนาดใหญ่ พร้อมเสียงสัมภาษณ์ของบุคคลใกล้ชิด ทั้งเพื่อนร่วมงาน อดีตหัวหน้า และผู้ใต้บังคับบัญชา
สาวแกร่งแห่ง"กองร้อยน้ำหวาน" บอดี้การ์ดผู้เคียงข้าง"ยิ่งลักษณ์"
คลิกที่นี่...ดูภาพวิธีการฝึก
หลายวันมานี้ เราจะได้เห็น"หญิงสาว"หน้าตาหวานบ้าง คมเข้มบ้าง แต่พวกเธอมีบุคลิกเดียวกันคือ ท่าทางทะมัดทะแมง ยืนประกบขวาซ้ายระวังหลัง"ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร"ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย พร้อมสอดส่ายสายตาอย่างระแวดระวัง เพื่อหาสิ่งผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา
ถือว่าเป็นสิ่งที่แปลกตาอยู่บ้าง ที่เราไม่เคยเห็นทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็น "ผู้หญิง" หลายคนคงสงสัยพวกเธอเหล่านี้มาจากไหน
พวกเธอเป็นตำรวจหญิงจาก"กองร้อยน้ำหวาน"หรือ"กองร้อยปราบจลาจลหญิง กองกำกับการควบคุมฝูงชน 1" ซึ่งคัดเลือกหัวกะทิจากการเปิดรับสมัครบุคคลภายนอก ซึ่งกำหนดคุณสมบัติต้องจบปริญญาตรี และมีอายุไม่เกิน 25 ปี
คัดเลือกกลุ่มที่ดีที่สุด สู่ขั้นตอนการอบรมยุทธวิธีอย่างหนักมากกว่า 3 เดือน เฉกเช่นเดียวกับหลักสูตรตำรวจปราบจลาจลชายอกสามศอก หากผ่านไปได้จะรับการบรรจุประจำการ รอคำสั่งให้ออกทำงาน แต่ระหว่างนี้พวกเธอยังต้องถูกเรียกฝึกอบรมยุทธวิธีอยู่เป็นระยะ
เรียกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะก้าวมาเป็นสาวหนึ่งใน"กองร้อยน้ำหวาน" และยิ่งไม่ง่ายที่จะได้เป็นสาวแกร่งยืนประกบ"ยิ่งลักษณ์"ว่าที่นายกฯสาวคนแรกของไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น